ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่
น.
แนวทางการบริหารงบประมาณ สำหรับผู้รับผิดชอบโครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
พร้อมระบบการให้คำปรึกษาผ่านเครือข่ายออนไลน์ เป็นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนให้บุคลากรได้เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น มีความถูกต้อง และรวดเร็ว
ต่อการบริหารงบประมาณของบุคลากรภายในคณะครุศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานในการจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งมีการนำข้อมูลที่จำเป็นมาผ่านระบบการให้คำปรึกษาผ่านเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลจำแนกหัวข้อได้ ดังนี้
- ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 – 2579
- ขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการยุทธศาสตร์
- การขออนุมัติโครงการและข้อควรระวังในการดำเนินงานโครงการ
- การจำแนกหมวดรายจ่ายสำหรับดำเนินกิจกรรมโครงการ
- การใช้จ่ายงบประมาณโครงการจำแนกหมวดรายจ่ายสำหรับดำเนินกิจกรรมโครงการ
- หมวดค่าตอบแทน
- หมวดค่าใช้สอย
- หมวดค่าวัสดุ
- กฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์
- แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง
ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 – 2579
พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 มาตรา 7 ระบุว่าให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่เสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟื้นฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลปวิทยาเพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนของปวงชนมีส่วนร่วมในการจัดการการบำรุงรักษาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุงถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู และมาตรา 8 ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 7 ดังต่อไปนี้
(1) แสวงหาความจริงเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการบนพื้นฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และภูมิปัญญาสากล
(2) ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สำนึกในความเป็นไทย มีความรักและผูกพันต่อท้องถิ่น อีกทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน เพื่อช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง การผลิตบัณฑิตดังกล่าวจะต้องให้มีจำนวนและคุณภาพสอดคล้องกับแผนการผลิต บัณฑิตของประเทศ
(3) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่าความสำนึกและความภูมิใจในวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติ
(4) เรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนาและนักการเมือง ท้องถิ่นให้มีจิตสำนึกประชาธิปไตยคุณธรรม จริยธรรม และความสามารถในการบริหารงานพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
(5) เสริมสร้างความเขhมแข็งของวิชาชีพครูผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง (6)ประสานความร่วมมือและช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหวางมหาวิทยาลัย ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
(7) ศึกษาและแสวงหาแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีพื้นบ้านและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของคนในท้องถิ่น รวมถึงการแสวงหาแนวทางเพื่อส่งเสริมให้เกิดการจัดการการบำรุงรักษาและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
(8) ศึกษาวิจัย ส่งเสริมและสืบสานโครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริในการปฏิบัติภารกิจของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยราชภัฏจึงได้น้อมนำพระราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และบทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 โดยจัดทำยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย ราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี ขึ้น โดยต่อมาได้มีการทบทวนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 โดยการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นสถาบันที่ผลิต บัณฑิตที่มีอัตลักษณ์ มีคุณภาพ มีสมรรถนะและเป็นสถาบันหลักที่บูรณาการองค์ความรู้สู่นวัตกรรมในการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อสร้างความมั่นคงให้ประเทศ โดยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ประกอบด้วย 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. การพัฒนาท้องถิ่นสร้างสรรค์ คุณภาพท้องถิ่นและสังคมอย่างยั่งยืนขับเคลื่อน คุณภาพการวิจัย การเรียนการสอน และการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอนุรักษ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีและศิลปวัฒนธรรม
2. การผลิตและพัฒนาครู พัฒนาคุณภาพการผลิตและพัฒนาครูที่ได้มาตรฐานวิชาชีพ และมีจิตวิญญาณความเป็นครูที่สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น
3. การยกระดับคุณภาพการศึกษา คุณภาพการศึกษา คุณภาพอาจารย์คุณภาพบัณฑิต การจัดการเรียนการรู้ สำหรับศตวรรษที่ 21
4. การพัฒนาระบบบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่ความรับผิดชอบ ระบบฐานข้อมูล การใช้ทรัพยากรร่วมกัน การพัฒนาเครือข่ายในพื้นที่ และสร้างธรรมาภิบาล
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ซึ่งได้กำหนดวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์เพื่อการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ให้เป็น “มหาวิทยาลัยชั้นนำรับใช้สังคมของภาคตะวันออก เพื่อสร้างนวัตกรรมตามศาสตร์พระราชา” โดยมหาวิทยาลัยได้น้อมนำพระราโชบายด้านการศึกษาในการเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นเป็นพื้นฐานในการพัฒนายุทธศาสตร์ บนพื้นฐานศักยภาพตามบริบทของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ดำเนินนโยบายการทำงานร่วมกับชุมชน สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายในท้องถิ่น โดยการร่วมมือกำหนดประเด็นการแก้ไขปัญหา ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579)
การดำเนินงานโครงการตามยุทธศาสตร์ราชภัฏพัฒนาท้องถิ่น จะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน โดยยึดเอาประโยชน์ของท้องถิ่น ชุมชน ในการสร้างบัณฑิตจิตอาสาพัฒนาท้องถิ่น และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
ขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการยุทธศาสตร์
การขออนุมัติโครงการและข้อควรระวังในการดำเนินงานโครงการ
- การขอยืมเงินทดรองราชการ : แนบโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้วและแบบฟอร์มขอยืมเงินทดรองราชการอย่างน้อย 3 วันทำการ ทั้งนี้ควรนับ 3 วันทำการเมื่อเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้วจากหน่วยงานและเดินทางไปถึงยังหน่วยงานคลัง
- หน่วยงานคลังจ่ายเช็คเงินยืมในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์
- การขออนุมัติโครงการใช้แบบฟอร์มเสนอโครงการของมหาวิทยาลัย (ภาคผนวก) พร้อมบันทึกข้อความเสนออนุมัติตามลำดับ
- ผู้มีอำนาจอนุมัติโครงการ พิจารณาจากวงเงิน ดังนี้
– ขออนุมัติงบประมาณไม่เกิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) คณบดีเป็นผู้ลงนามอนุมัติ
– ขออนุมัติงบประมาณมากกว่า 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) เสนอต่อรองอธิการบดีเป็นผู้อนุมัติ
- ระยะเวลาการขออนุมัติโครงการ : ควรเผื่อระยะเวลาการดำเนินการทางเอกสาร และคำนึงถึงวันหยุดต่างๆ โดยควรเสนออนุมัติก่อนถึงวันกำหนดดำเนินโครงการไว้เนิ่นๆ การขออนุญาตดำเนินโครงการที่กระชั้นชิดเกินไปอาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการโครงการได้ตามที่กำหนด ดังนั้นทุกการขออนุมัติ ควรสำรองเวลาสำหรับการเดินทางของเอกสารตามลำดับ ตลอดจนวันหยุดต่างๆ จึงควรวางแผนงานและสำรองเวลาไว้อย่างน้อย 3 สัปดาห์
- ขั้นตอนอื่นๆ เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติ : การเผื่อเวลาในการดำเนินการเอกสารมีความสำคัญ เพราะเมื่ออนุมัติโครงการแล้วผู้รับผิดชอบโครงการจะต้องนำมาแนบสำหรับ
1. การขอนุมัติใช้รถยนต์ (ถ้ามี)
2. การขออนุญาตผู้ปกครอง (กรณีมีนักศึกษาร่วมโครงการ) - อาจารย์ที่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่ : ถ้าในวันนั้นมีตารางสอนจะต้องยื่นเรื่องขอสอนชดเชยและได้รับอนุมัติจากรองอธิการบดีวิชาการไว้ก่อน ซึ่งหากมีการขอเบิกค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานโครงการจะต้องแนบตารางสอนพร้อมทั้งเอกสารการขอสอนชดเชย กรณีที่ชั่วโมงมีสอน
- การเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าพาหนะ : จะต้องทำคำสั่งเดินทางไปราชการ และได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถเบิกค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะได้
- การใช้รถยนต์ส่วนตัว : จะต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าส่วนราชการ (อธิการบดี หรือรองอธิการบดีที่ได้รับมอบหมาย) และจะต้องได้รับอนุมัติก่อนการเดินทาง โดยเบิกเหมาจ่าย ก.ม.ละ 4 บาท (ค่าทางด่วนไม่สามารถเบิกได้)
การจำแนกหมวดรายจ่ายสำหรับดำเนินกิจกรรมโครงการ
โครงการงบยุทธศาสตร์ที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆ จัดเป็นงบดำเนินงาน ซึ่งหมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจ่าย ที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว โดยในที่นี้จะกล่าวเฉพาะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการงบยุทธศาสตร์เท่านั้น (รายละเอียดรายการอื่นๆ ผู้สนใจสามารถดูได้จาก หลักเกณฑ์ และอัตราค่าใช้จ่ายประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงบประมาณ)
หมวดค่าตอบแทน
กิจกรรม | รายละเอียด |
1. ลักษณะกิจกรรม
|
|
2. อัตราค่าสมนาคุณวิทยากร
|
|
3. ค่าตอบแทนนักศึกษาที่ช่วยปฏิบัติราการ |
|
4. ค่าตอบแทนปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ (อาจารย์และเจ้าหน้าที่) |
|
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
1. หนังสือเชิญวิทยากร กรณีที่วิทยากรเป็นบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย หรือบันทึกข้อความขอเชิญเป็นวิทยากร กรณีที่เชิญบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเป็นวิทยากร ระดับการอนุมัติ : คณบดี 2. บันทึกข้อความขออนุมัติเชิญบุคคลภายนอกหรือบุคคลภายในเป็นวิทยากร ระดับการอนุมัติ : อธิการบดี/รองอธิการบดี 3. คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ (ถ้ามี) 4. บันทึกข้อความอนุมัติดำเนินงานโครงการ และเอกสารโครงการพร้อมกำหนดการ |
1. (สำเนา) หนังสือเชิญวิทยากร กรณีที่วิทยากรเป็นบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย พร้อมกำหนดการ หรือบันทึกข้อความขอเชิญเป็นวิทยากร กรณีที่เชิญบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเป็นวิทยากร การรับรองสำเนา รับรองสำเนาถูกต้องทุกหน้าทุกฉบับ โดยผู้ยืมเงินทดรองราชการ ข้อควรระวัง หนังสือเชิญวิทยากร ระบุวันที่เชิญวิทยากรมาบรรยาย ต้องตรงกับวันที่จัดโครงการ 2. (ฉบับจริง) บันทึกขออนุมัติเชิญบุคคลภายนอกหรือบุคคลภายในเป็นวิทยากร และตารางการบรรยาย 3. (ฉบับจริง) แบบใบสำคัญรับเงิน ค่าตอบแทนวิทยากร ลงชื่อผู้จ่ายโดยผู้ยืมเงินทดรองราชการ และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับเงิน ข้อควรระวัง บัตรประจำตัวต้องไม่หมดอายุ ข้อควรระวัง กรณีที่เชิญบุคคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นวิทยากร ต้องแนบตารางสอน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง การเบิกค่าตอบแทนวิทยากรสำหรับบุคคลากรมหาวิทยาลัย จะเบิกได้ได้เมื่อในช่วงทำกิจกรรมโครงการ ไม่ตรงกับคาบสอนตามตาราง) กรณีที่มีตารางสอนต้องขออนุญาตสอนชดเชย และแนบหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย ระดับการอนุมัติ : รองอธิการบดี 4. (สำเนา) สัญญาการยืมเงิน (กรณีที่ยืมเงินทดรองราชการ) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 5. (ควรมี) แบบตอบรับวิทยากร 6. (สำเนา) บันทึกข้อความอนุมัติดำเนินงานโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว พร้อมกำหนดการโครงการ (รายละเอียดชื่อนามสกุล/ ระยะเวลาการทำกิจกรรม/ ชื่อกิจกรรม) ทุกแห่งต้องตรงกันทั้งในกำหนดการที่แนบกับหนังสือเชิญและกำหนดการที่แนบกับเอกสารโครงการ พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้องทุกหน้าทุกฉบับโดยผู้ยืมเงินทดรองราชการ 7. (สำเนา, ถ้ามี) คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ รับรองสำเนาถูกต้องทุกหน้าทุกฉบับโดยผู้ยืมเงินทดรองราชการ 8. (สำเนา) (ถ้ามี) บันทึกข้อความอนุมัติปรับกิจกรรมโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้องทุกหน้าทุกฉบับโดยผู้ยืมเงินทดรองราชการ |
- ดูการเทียบตำแหน่งได้ใน ภาคผนวก 1 ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555
- การเบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรกรณีที่เป็นประชาชนทั่วไปจะเบิกในอัตรา 600 บาทต่อชั่วโมง พิจารณาจากคุณวุฒิประกอบ หากมีความเชี่ยวชาญชำนาญพิเศษสามารถเบิกจ่ายในอัตรา 1,200 ต่อชั่วโมง โดยจะต้องระบุรายละเอียดที่ชัดเจนใน บันทึกขออนุมัติเชิญบุคคลภายนอกหรือบุคคลภายในเป็นวิทยากร และตารางการบรรยาย สำหรับการเชิญวิทยากรจากมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐเบิกจ่ายในอัตรา 600 บาทต่อชั่วโมง อาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชน เบิกจ่ายในอัตรา 1,200 ต่อชั่วโมง
เอกสารประกอบการเบิกค่าตอบแทน กรณีการอบรมสัมมนาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
หมวดค่าใช้สอย
1. ค่าอาหาร อาหารว่างและเครื่องดื่ม
กิจกรรม/อัตรา | รายละเอียด |
1. ค่าอาหาร
|
|
2. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม
|
|
ข้อควรระวัง | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
|
2. ค่าที่พัก
ประเภท | อัตราการเบิกจ่าย |
บุคคลากรของมหาวิทยาลัย และบุคลากรของรัฐ
|
|
บุคคลภายนอก และนักศึกษา |
|
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
|
3. ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง (ไปราชการ) และ ค่าทางด่วน กรณีขอรถของมหาวิทยาลัย
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
|
4. ค่าเช่าสถานที่จัดฝึกอบรม และค่าจ้างตกแต่งสถานที่
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
กรณีที่จะยืมเงินค่าเช่า ฎีกาขออนุญาตเช่าสถานที่ ยื่นพร้อมกับการยืมเงิน ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว และทำจัดซื้อจัดจ้าง |
|
5. ค่าเช่ารถ (รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง)
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
กรณีที่จะยืมเงินค่าเช่า ฎีกาขออนุญาตเช่าเช่ารถโดยสาร ยื่นพร้อมกับการยืมเงิน ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว และทำจัดซื้อจัดจ้าง |
|
6. ค่าจ้างวิเคราะห์และสรุปข้อมูล
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
|
หมวดค่าวัสดุ
ค่าวัสดุ หมายถึง สิ่งของที่จัดเป็นวัสดุแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1) วัสดุคงทน ได้แก่ สิ่งของที่โดยสภาพมีลักษณะคงทนแต่ตามปกติมีอายุการใช้งานไม่ยืนนาน หรือเมื่อนำไปใช้งานแล้วเกิดความชำรุดเสียหาย ไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้ดังเดิม หรือ ซ่อมแล้วไม่คุ้มค่า
2) วัสดุสิ้นเปลือง ได้แก่ สิ่งของที่โดยสภาพมีลักษณะเมื่อใช้แล้วหมดไป
3) วัสดุอุปกรณ์ประกอบและอะไหล่ ได้แก่สิ่งของที่ใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบหรืออะไหล่สำหรับ การซ่อมแซมบำรุงรักษา
ประเภทและอัตราการเบิกจ่าย |
รายจ่ายที่จ่ายไปเพื่อจัดซื้อจัดหา หรือจ้างทำของเพื่อให้ได้มาซึ่งของใช้สิ้นเปลือง ไม่คงทนถาวร |
เอกสารที่ต้องขออนุมัติก่อนการดำเนินการ | เอกสารประกอบการเบิกจ่าย |
|
|
กฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์
- คู่มือการบริหารงบประมาณ สำหรับผู้รับผิดชอบโครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
สำหรับข้อมูลที่ยังไม่ปรากฏ หากมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำที่เกี่ยวข้อง สามารถพิมพ์ผ่านเฟซบุ๊กด้านล่าง ดังที่ปรากฏ